กองทุนรวมเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง ที่มีการแบ่งแยกประเภทออกเป็นอีกหลายรูปแบบ และแต่ละประเภทก็มีความเสี่ยงในระดับที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าเทียบกับการลงทุนรูปแบบอื่น อย่างเช่นหุ้น หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้ว กองทุนรวมก็ยังถือว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่า อีกทั้งยังมีกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำที่เหมาะกับมือใหม่ หรือผู้ที่สนใจการลงทุนแต่ไม่มีเวลาติดตามข่าวสารการลงทุน หรือผู้ที่มีประสบการณ์การลงทุนมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงกับเลือกหุ้นรายตัวได้ กองทุนรวมจึงเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ ช่วยให้ไม่ได้ต้องกังวลกับความเสี่ยงในการลงทุนมากเกินไป
เข้าใจการลงทุนในกองทุนรวม ก่อนเริ่มหากองทุนรวมความเสี่ยงต่ำ
กองทุนรวม เกิดจากการลงทุนของนักลงทุนหลายราย ซึ่งระดมเงินกันให้เป็นทุนก้อนใหญ่ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนหรือ บลจ. หลังจากนั้นทุนดังกล่าวจะถูกนำไปลงทุนตามนโยบายที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน เมื่อเราซื้อกองทุนรวม เราก็มีฐานะเป็นผู้ถือหน่วยลงทุน และจะได้รับผลกำไรตอบแทนตามจำนวนหน่วยลงทุนที่เรามีอยู่ หากผู้จัดการของทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนนำเงินไปบริหารแล้วได้ผลกำไรกลับมา ดังนั้นมูลค่าของหน่วยลงทุนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนนั่นเอง
ถึงแม้กองทุนจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้น แต่กองทุนรวมเองก็มีหลายประเภทและมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป นักลงทุนที่ยังไม่มีประสบการณ์หรือยังไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลการลงทุนมากพอ จึงมักเลือกลงทุนในกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำที่มีนโยบายการลงทุนไม่ซับซ้อน ลงทุนกับสินทรัพย์ภายในประเทศเป็นหลัก เพราะถ้าเป็นกองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากค่าเงินที่ผันผวน และหากเป็นกองทุนแบบผสมหรือกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก จะมีความเสี่ยงจากราคาสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงมาก เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงในระดับสูงได้ และอาจต้องลงทุนในระยะยาวหากคาดหวังให้ผลตอบแทนสูงขึ้น
3 ประเภทกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำ แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยกองทุน
เมื่อกองทุนรวมมีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทยังข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างกันคือ ระยะเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน บางประเภทเหมาะกับการลงทุนในระยะสั้น บางประเภทเหมาะกับการลงทุนในระยะยาว และอีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างคือ ระดับความเสี่ยงของกองทุน ประเภทของกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง ย่อมมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงตามไปด้วย ในขณะที่ประเภทของกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็เป็นประเภทที่เหมาะกับการเป็นที่พักเงิน สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการลงทุนน้อย ก็อาจลงทุนในกองทุนความเสี่ยงต่ำเพื่อศึกษารูปแบบการลงทุนไปก่อนก็ได้ โดยประเภทของกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำ ได้แก่
- กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศถือว่าเป็นกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำที่มีความเสี่ยงในระดับต่ำมาก เพราะมีนโยบายการลงทุนในเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี เหมาะกับการลงทุนระยะสั้น กำไรที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนจะไม่ต้องเสียภาษี โดยส่วนใหญ่แล้วหน่วยงานที่กู้เงินจากกองทุนประเทศนี้ จะเป็นหน่วยงานที่มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือ เช่น รัฐบาล หรือสถาบันการเงินขนาดใหญ่ จึงมีความเสี่ยงที่ผู้กู้จะผิดนัดชำระหนี้น้อยมาก ๆ ทั้งนี้ ผลตอบแทนของกองทุนรวมตลาดเงินมักจะสูงกว่าผลตอบแทนจากการฝากเงินเล็กน้อย และยังขึ้นชื่อว่าเป็นการลงทุนที่มีโอกาสเสียเงินต้นได้อยู่ จึงควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
- กองทุนรวมตราสารหนี้
กองทุนรวมตราสารหนี้ มักจะมีความเสี่ยงต่ำไปจนถึงความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ ซึ่งมีทั้งของรัฐบาลและภาคเอกชน เรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่าหุ้นกู้นั่นเอง ผลตอบแทนที่ได้รับจะเป็นดอกเบี้ย และมีส่วนต่างของราคาต้นทุนซึ่งขึ้นอยู่กับราคาตลาดที่มีความเปลี่ยนแปลงทุกวัน จึงมีช่วงเวลาที่ทำให้เกิดกำไรหรือขาดทุนแตกต่างกันไป ในจุดนี้เองที่ทำให้กองทุนรวมตราสารหนี้มีความผันผวนมากกว่ากองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ จึงควรศึกษาข้อมูลการลงทุนเพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาในการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมาย หรือลงทุนในกรอบระยะเวลาที่กองทุนนั้น ๆ แนะนำ
- กองทุนรวมเพื่อการออม
กองทุนรวมเพื่อการออมมีตัวย่อที่คุ้นเคยคือ SSF เป็นกองทุนรวมที่สามารถเลือกความเสี่ยงต่ำได้ และเนื่องจากเป็นกองทุนที่เกิดขึ้นมาจากภาครัฐ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดการออมเงินระยะยาว ผู้ลงทุนจึงได้รับสิทธิประโยชน์นำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีในแต่ละปี และลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาท มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย แต่มีเงื่อนไขที่ต้องลงทุนในระยะยาว 10 ปีขึ้นไป จึงเหมาะกับผู้ที่สามารถลงทุนระยะยาวได้
กองทุนรวมความเสี่ยงต่ำมีความผันผวนน้อยและไม่เสี่ยงสูญเสียเงินต้นทั้งหมดก็จริง แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่ต้องศึกษาทำความเข้าใจอยู่เช่นกัน จึงขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการลงทุน เพราะบางกองทุนอาจให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ดังนั้นควรศึกษาอัตราของผลตอบแทนที่จะได้รับ สิทธิประโยชน์พิเศษ และระยะเวลาที่ใช้ในการลงทุนเพื่อให้ผลการลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้ได้มากที่สุด
